Cubicschool Wiki
Register
Advertisement
พล - พชรพล วิชัยชาญ

POL - Patcharapol Vichaichan

ชื่อ-นามสกุล

พชรพล วิชัยชาญ (Patcharapol Vichaichan)

ชื่อเล่น

พล (Pol)

วันเกิด (อายุ นับถึงปี 2559)

20 มีนาคม 2541 (17 ปี)

เพศ (รสนิยมทางเพศ)

ชาย (ชอบผู้หญิง)

สถานะ

นักเรียนรุ่นที่ 6 (2556-2558)

แผนการเรียน

ศิลป์-ฝรั่งเศส

ส่วนสูง-น้ำหนัก

176 เซนติเมตร / 68 กิโลกรัม

ศาสนา

พุทธ

กรุ๊ปเลือด

n/a

ชมรม

ทำอาหาร

พล - พชรพล วิชัยชาญ

ข้อมูลทั่วไป

DB1

1. ชื่อจริง / นามสกุล / (ชื่อเล่น) (ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ)

พชรพล วิชัยชาญ (พล) Patcharapol Vichaichan (Pol)

2. อายุ 

15 ปี

3. วัน เดือน ปี เกิด 

20 มีนาคม 2541

4. เพศ   ชาย    รสนิยมทางเพศ  หญิง

5. ความสูง   176 ซม.

 น้ำหนัก    68 กก.

6. รูปพรรณสัณฐาน (ภาพวาดหรือบรรยายก็ได้)

- ผิวขาว ค่อนไปทางแทนเล็กๆเพราะเล่นกีฬากลางแจ้งบ่อย

- ผมและตาสีน้ำตาลเข้ม

- ผมนุ่มหนาซอยสั้นแบบภาพ (1) ณ ช่วงเวลาที่พลมาสอบสัมภาษณ์นั้นจะยังไว้ผมสั้นเกรียนอยู่

(แต่จะเริ่มมีผมยาวขึ้นมาบ้างแล้วเพราะไม่ได้ไปตัด) ทรงผมตามในภาพคือทรงที่เจ้าตัวกะไว้เมื่อสอบเข้าได้ค่ะ

- คิ้วหนาจนเป็นเอกลักษณ์ แต่เจ้าตัวไม่ค่อยชอบให้ใครพูดถึงสักเท่าไหร่

(รู้สึกเหมือนเป็นปมด้อยเล็กๆด้วยส่วนหนึ่ง)

- หางตาตกเล็กๆทำให้ดูเหมือนง่วงตลอดเวลา(แบบภาพ(2)ที่แนบมาแต่สีตาเป็นสีน้ำตาลเข้มแบบคนเอเชียนะคะ)

- ใส่แว่นกรอบดำตามรูปที่ (3)

- เครื่องแบบของโรงเรียนวชิราวุธ(4) พลจะใส่มาตอนช่วงสอบสัมภาษณ์

ถ้าสอบติดจะเปลี่ยนสีเครื่องแบบตามกฏของโรงเรียน แต่จะคงถุงเท้ายาวไว้

และใส่เครื่องแบบเก่าเฉพาะเวลาที่มีโอกาส พิเศษที่ทางโรงเรียนไม่กำหนดให้ใส่เครื่องแบบมาตรฐานค่ะ เช่นงานโรงเรียนหรือวันพิเศษที่ไม่ได้เป็นพิธีการมากนัก

และพวกตราเข็มกลัดต่างๆจากโรงเรียนเก่าจะเอาออก เหลือไว้แค่ตัวเครื่องแบบเท่านั้น

(คือเครื่องแบบวชิราวุธกับกางเกงสีเขียว) 

ในเวลาเรียนปกติจะใส่ชุดนักเรียนมาตรฐาน(เสื้อแขนสั้นกางเกงขาสั้นสีเขียว)ตามกฎของโรงเรียนค่ะ

(1)ลักษณะทรงผม

เครดิตภาพ : http://play.kapook.com/photo/showfull-67114-4

(2)รูปตาและคิ้ว (แต่คิ้วจะเข้มเห็นชัดกว่า // และเบ้าตาจะใหญ่กว่านี้นิดนึงค่ะ แต่หางตาจะตกประมาณนี้)

เครดิตภาพ : MV Somebody That I Used to Know

(3)ตัวอย่างแว่นตาที่ใช้

เครดิตภาพ : http://www.lookmatic.com/men/jesse-black

 (4.) ชุดเครื่องแบบที่ใส่

 เครดิต: th.wikipedia.org/ 

7. ลักษณะนิสัยและพฤติกรรมต่างๆของตัวละคร

คุณชาย / โบราณ / ดื้อเงียบ/ แสดงอารมณ์ชัดเจน / กระตือรือร้น 

คุณชาย

- เพราะโตมาในสภาพแวดล้อมของสังคมผู้ดีเก่า ทั้งจากคุณยายและโรงเรียนเก่า พลจึงมีลักษณะการวางตัวที่แตกต่างจากเด็กวัยรุ่นทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด

- โดยทั่วไปพลจะดูสุขุมและสุภาพกับทุกๆเรื่อง แต่เป็นเพราะถูกคุณยายสอนเรื่องการวางตัวต่างๆมาตั้งแต่เด็ก ไม่เกี่ยวกับนิสัยโดยพื้นฐาน 

- ท่าทางการแสดงออกแบบ"คุณชาย"ที่เห็นได้ชัดจากพลคือ

  1. พูดจามีหางเสียง"ครับ" เรียกตัวเองว่า "ผม"กับทุกๆคนไม่ว่าจะเป็นผู้ที่อาวุโสกว่าหรือกับคนในระดับเดียวกัน
  2. สำรวมท่าทาง เช่น นั่งตัวตรง, เดินแบบอกผาย ไหล่ผึง, ทานอาหารตามหลักมารยาทบนโต๊ะอาหาร(เคี้ยวเสียงเบา ไม่พูดคุยเวลามีอาหารอยู่ในปาก)

- สำรวมและมีท่าทีนอบน้อมกับผู้อาวุโสกว่า เช่น ครู หรือคนที่อายุมากกว่าตน5 ปีขึ้นไป จะพูดจาสุภาพ ไหว้ และอื่นๆ

- กับรุ่นพี่ก็จะแสดงท่าทางเคารพนบนอบเช่นกัน แต่ไม่มากเท่าผู้หลักผู้ใหญ่ หากสนิทกันแล้วก็จะมีการพูดเล่นหยอกล้อบ้างตามแต่โอกาสจะอำนวย แต่ก็จะพูดด้วยภาษาสุภาพตลอด

- พลจะทำตัว"สุภาพบุรุษ"กับเพศตรงข้ามอยู่เสมอ เช่นคอยช่วยเมื่ออีกฝ่ายต้องการความช่วยเหลือ ยึดคติ Lady's First พูดจาสุภาพ ในบางครั้งเมื่อเกิดปัญหาอะไร พลมักจะถือข้างผู้หญิงมากกว่า

โบราณ

- พลใช้ชีวิตตั้งแต่เด็กจนโตอยู่กับบ้านยาย และโรงเรียนประจำทำให้พลไม่เคยได้ออกไปไหนมาไหนกับเพื่อนๆเลย

- พลจะไม่ค่อยรู้จักโลกภายนอกผ่านสายตาของวัยรุ่นและมักจะมีรสนิยมที่ "ย้อนยุค" เกินวัย

- พลไม่เคยไปดูหนังกับเพื่อน กินแมค ร้องคาราโอเกะ เล่นเกมตู้ กินเสวนเซ่นส์ และทำกิจกรรมอื่นๆที่คนในวัยเดียวกันทำ ถ้าในอนาคตพลมีโอกาสได้ลองทำสิ่งต่างๆที่ยกตัวอย่างมา พลจะออกอาการตื่นเต้นจนเห็นได้ชัด

- ความล้าหลังของพลนั่นรวมถึงเรื่องอื่นๆ เช่น ข่าวในวงการบันเทิง, แฟชั่น, นักร้อง, เทรนด์ดังๆ ด้วย เช่น พลจะรู้จักว่าโดม ปกรณ์ ลัม หรือ ณเดชน์เป็นใคร แต่จะไม่รู้ว่าใครกิ๊กใครหรือใครกำลังเป็นข่าว

เรียกได้ว่าความรู้รอบตัวและข่าวสารบ้านเมืองของพลจำกัดอยู่ในโทรทัศน์ช่วงข่าวสาระ(ข่าวเย็น ข่าวภาคค่ำ ไม่รวมข่าวบันเทิง) แต่ถ้าเป็นอะไรที่รู้กันเป็นวงกว้างในโลกไซเบอร์ พลจะไม่เก็ต

ตัวอย่างเช่น กระแส Harlem Shake กังนัมสไตล์ ครูอังคณา พลจะไม่รู้เรื่องจนกว่าจะมีข่าวออกทีวี

อย่างกระแสเฟอร์บี้ตอนแรกๆพลจะงงๆแต่พอเห็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์พลจะถึงบางอ้อ(ซึ่งบางครั้งก็เพิ่งจะอ้อตอนกระแสซาไปแล้ว)

- พลไม่ใช่คนตามกระแสสักเท่าไหร่ เพราะได้อิทธิพลจากยายที่ใช้ชีวิตแบบพอเพียงจนเกือบจำกัดจำเขี่ย ข้าวของเครื่องใช้ที่มีก็เป็นแบบบ้านๆ ไม่หรูหรามากนัก

ดื้อเงียบ

- แม้จะเป็นคนที่เคารพเชื่อฟังผู้ใหญ่ แต่พลก็มีมุม "ดื้อ" อยู่เหมือนกัน

- ถ้าพลคิดตั้งใจจะทำอะไรแน่วแน่ 100% หรือตัดสินใจจะลงมือทำอะไรสักอย่างหนึ่ง ถึงแม้ว่าใครจะบอกหรือแนะนำให้เลือกทำอีกทางแทน เจ้าตัวอาจจะตอบรับไปตามมารยาท แต่สุดท้ายจะทำอย่างที่ใจอยากอยู่ดี แต่จะเป็นกับสิ่งที่พลรู้สึกกระตือรือร้นที่จะทำจริงๆเท่านั้น

- ยกตัวอย่างเช่น พลอยากซื้อหนังสือที่เขียนโดยนักเขียนที่ตนเคยชอบ ถึงยายจะบอกว่า "เล่มนี้ไม่ดีหรอก ไม่สนุกอย่าซื้อเลย" พลจะรับคำยายแต่สุดท้ายก็แอบสะสมเงินไปซื้อหนังสือเล่มนั้นมาอยู่ดี

- ทุกคนขัดจุดยืนพลได้ เขาไม่ถือ แต่ถ้าเริ่มขัดพลในประเด็นเดียวกันเกินสามครั้ง พลจะเริ่มหงุดหงิด 

แสดงอารมณ์ชัดเจน

- พลเป็นคนเก็บอารมณ์ไม่ค่อยเก่ง ทำให้โดนยายดุอยู่เนืองๆ เพราะถือเป็นสิ่งหนึ่งที่ยายพยายามสอนมาตลอด แต่พลยังคุมไม่ค่อยได้ เพราะความที่อยู่ในช่วงวัยรุ่น อารมณ์ไม่คงที่ด้วยส่วนหนึ่ง

- โดยส่วนใหญ่อารมณ์ของพลจะออกทางสีหน้าไม่ว่าจะดีใจ โกรธ เศร้า เช่น เวลาพลโกรธ จะทำหน้าตึงขึ้นมาทันที

- เวลาโมโหรุนแรงพลจะเริ่มเสียงแข็ง ก่อนจะเริ่มพูดจาประชดประชัน กระแทกกระทั้นใส่ฝ่ายตรงข้าม ซึ่งจะผิดวิสัยจากท่าทางสุขุมยามปกติ แต่ยังไม่เคยมีกรณีรุนแรงถึงขั้นชกต่อยเกิดขึ้น

- เวลาตื่นเต้นมากๆ (เช่น เวลาได้ออกไปเที่ยวกับเพื่อน) พลจะพูดไม่หยุด ถามนู่นถามนี่ตลอดเวลาและชื่นชมโสมนัสกับทุกสิ่งที่ประสบพบเจอเป็นพรรณนาโวหาร "รสชาติของไอศกรีมช่างนุ่มละมุนลิ้น รสและกลิ่นนั้นเข้มข้นอบอวลอยู่ในปาก ฯลฯ"

กระตือรือร้น

- กับเรื่องที่สนใจ พลจะมีท่าทีพร้อมที่จะให้ความร่วมมือและแทบจะทุ่มเทให้เต็มร้อย ในบางครั้งแทบจะถือเป็นพ่องานได้เลย 

- เรื่องที่สนใจนั้นครอบคลุมทุกเรื่องตั้งแต่กิจกรรมกลุ่ม การเรียน กิจกรรมชุมชน ฯลฯ

- พลจึงจะรู้สึกขัดใจเล็กๆเวลาเห็นคนที่ไม่ให้ความร่วมมือหรือแสดงอาการเบื่ออย่างชัดเจนในบางสิ่งที่ตนทุ่มเทสุดใจ

- เรียกได้อีกอย่างว่าพลเป็นคนที่จริงจังกับสิ่งที่ตัวเองรักและสนใจ และพร้อมทุ่มทุกสิ่งทุกอย่างให้กับมันอย่างเต็มที่มีร้อยให้ร้อย 

8. การใช้คำพูด 

(1) คนในครอบครัว

แม่ : คุณแม่

แทนตัวว่า "พล" หรือ "ผม" ลงท้ายด้วย "ครับ"

ยาย : คุณยาย 

แทนตัวว่า "พล" หรือ "หลาน" ลงท้ายด้วย "ครับ"

(2) คนที่ไม่รู้จัก / คนที่ไม่สนิท

คนที่อายุมากกว่า:  คุณ..(ชื่อจริง)

แทนตัวว่า"ผม"

คุณครู: ครู/อาจารย์..(ชื่อจริง)

แทนตัวว่า"ผม"

รุ่นพี่: พี่..(ชื่อจริง)

แทนตัวว่า"ผม"

เพื่อน: (ชื่อจริง) , เธอ ,นาย 


แทนตัวว่า"ผม"

คนที่อายุน้อยกว่า: น้อง..(ชื่อจริง)

แทนตัวว่า"พี่"

ลงท้ายมีหางเสียง"ครับ"กับทุกคน

(3) คนที่สนิทกันแล้ว

คุณครู: ครู...(ชื่อเล่น)

แทนตัวเอง: ผม

ลงท้ายมีหางเสียง"ครับ"กับทุกคน

รุ่นพี่: พี่...(ชื่อเล่น)

แทนตัวเอง: ผม

ลงท้ายมีหางเสียง"ครับ"กับทุกคน

รุ่นน้อง: น้อง...(ชื่อเล่น)

แทนตัวเอง: พี่

ไม่ลงท้าย"ครับ"แต่จะพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพ

เพื่อน: (ชื่อเล่น) , นาย เธอ

อาจมีตั้งชื่อเล่นน่ารักๆให้กับคนที่สนิทมากๆ เช่น ตัวเล็ก, โย่ง, คนสวย ฯลฯ

และจะใช้ชื่อเล่น(ที่ตัวเองตั้ง)เรียกเพื่อนในบางโอกาส

แทนตัวเอง: เรา, ฉัน(ถ้าสนิทกันแบบซี้ปึ้ก)

ไม่ลงท้าย"ครับ" ไม่พูดคำหยาบ แต่อาจมีหลุด "เฮ้ย"และ "ไอ้บ้า" บ้าง

แต่ "วะเว้ย พ่-ง แ-่ง เ-ี้ย " จะไม่มีหลุดออกมา และจะไม่เรียกเพื่อนว่า "ไอ้"หรือ"ยัย"ยกเว้นคำอุทานเวลาตกใจ

หรือขำจนลืมคุมตัวเอง แต่เวลาปกติจะไม่เรียกเพื่อนแบบนั้นแน่นอน

9. สิ่งที่ชอบ (และปฏิกิริยาที่แสดงออก)

- ขนมไทย

โดยเฉพาะตระกูลทอง(ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง เม็ดขนุน) และ ข้าวเกรียบปากหม้อ

พลชอบทานขนมไทยๆ เวลาที่เจอจะอดไม่ได้ที่จะซื้อติดไม้ติดมือกลับมาแม้ในบางครั้งจะมีขนมรอกินอยู่ที่บ้านอยู่แล้วก็ตาม

- การได้ลงมือทำอะไรเอง

สมัยยังอยู่กับแม่ พลเหมือนคุณชายโดนสปอยล์ที่ไม่เคยต้องหยิบจับทำอะไรเอง

พอมาอยู่กับยายก็ได้ลองทำสิ่งต่างๆ(เช่นทำอาหาร ทำความสะอาดบ้าน)บ่อยขึ้นแล้วพลก็ชักติดใจเพราะทำให้รู้สึกว่าตัวเองสามารถทำสิ่งที่มีประโยชน์ได้

บางครั้งถ้ามีสิ่งไหนที่พลเชื่อว่าตัวเองจะทำได้ดี พลจะออกตัวอาสาเองโดยไม่มีใครเอ่ยปากขอ

ถ้าโดนปฏิเสธ(แม้จะเป็นการปฏิเสธอย่างสุภาพเพราะเกรงใจก็ตาม) พลจะเฟลไปพักหนึ่ง

- กลิ่นน้ำอบ

ถ้าได้กลิ่นน้ำอบที่ไหน พลจะทำหน้าเคลิ้มอยู่คนเดียว และชื่นชมโสมนัสกับกลิ่นนี้จนเข้าขั้นเสพติด

เวลาต้องออกไปไกลบ้านเกินหนึ่งคืน เช่นไปค้างบ้านเพื่อน ออกค่าย ไปต่างจังหวัดพลจะพกขวดน้ำอบเล็กๆติดตัวไปแก้คิดถึง

ถ้าขาดแคลนน้ำอบเมื่อไหร่พลจะดูสีหน้าหมองๆไป เพราะการดมน้ำอบทำให้พลรู้สึกสดชื่นมากกว่าวิธีอื่นๆ

- ดอกมะลิ

พลชอบกลิ่นดอกมะลิ เวลาต้องซื้อดอกไม้ สิ่งแรกที่แวบเข้ามาในหัวของพลจะเป็น"ดอกมะลิ"ก่อนใครเพื่อน

เคยสร้างวีรกรรมซื้อดอกมะลิมาแต่งห้องเรียนตอนวันคริสต์มาสมาแล้ว

- เพลงลูกกรุง โดยเฉพาะสุเทพ วงศ์กำแหง

พลได้รับอิทธิพลหลายอย่างมาจากคุณยาย รสนิยมในการฟังเพลงก็เป็นหนึ่งในนั้น

ถ้าเจอร้านแม่ไม้เพลงไทยที่ไหนพลจะ"พุ่ง"เข้าไปในร้านทันทีโดยไม่สนใจใครทั้งสิ้น

10. สิ่งที่เกลียด,กลัว (และปฏิกิริยาที่แสดงออก)

เกลียด

- กลิ่นมินต์

เกิดจากการที่ในวัยเด็กพลเคยเผลออมลูกลอมรสมินต์เข้าไปโดยเข้าใจว่าเป็นรสนม

พอเจอรสชาติที่ไม่คาดคิด+ความเย็นของมินต์ในปากทำให้พลขยาดแขยงกลิ่นนี้มานับแต่นั้น

พลจะไม่มีวันทานขนมอะไรที่มีส่วนประกอบของมินท์เป็นอันขาด ไม่ว่าจะเป็นลูกอม เค้ก ขนม ไอติม

ปกติจะปฏิเสธอย่างสุภาพ แต่หากเผลอกินโดยไม่ตั้งใจ(เช่น ช็อคโกแลตไส้มินต์) พลจะรีบถุย/คายทิ้งทันที

ส่วนยาสีฟันเองก็เช่นกัน....พลปฎิเสธที่จะใช้ยาสีฟันทั่วไปตามท้องตลาด......และเลือกที่จะใช้ยาสีฟันเด็ก

(โคโดโมะ กลิ่นส้ม) มากกว่าจะยอมใช้ยาสีฟันของผู้ใหญ่

ถ้าพลได้กลิ่นมินต์ เช่น จากเพื่อนที่นั่งกินอยู่ พลจะออกอาการแหยงและพยายามเลี่ยงไปทางอื่น แต่ถ้าหนีไม่ได้ก็จะนั่งหน้าบูดอยู่ตรงนั้นและจะพยายามกลั้นหายใจให้นานเท่าที่จะนานได้

- ผลไม้รสเปรี้ยว โดยเฉพาะสละ และส้มโอ

พลเกลียดรสเปรี้ยวโดยที่ตัวเองก็ไม่รู้สาเหตุว่าเป็นเพราะอะไร ถ้าพลเลี่ยงได้ จะเลี่ยง

แต่ถ้าโดนคุณยายบังคับให้กิน(เพราะมีประโยชน์ ฯลฯ) ก็จะกิน แต่จะทำหน้าไม่ยินดีแบบแสดงออกชัดเจน

- การโดนขัดใจหรือโดนดูถูกในสิ่งที่เชื่อ

เป็นนิสัยที่เกิดจากการเคยโดนตามใจเยอะๆตอนเด็ก แม้ว่าจะไม่มากเท่าเมื่อก่อนแต่พลก็ยังมีความเอาแต่ใจตัวเองในบางที แต่จะไม่ค่อยแสดงออกกับผู้ใหญ่มากนัก ส่วนใหญ่จะแสดงออกในหมู่เพื่อนมากกว่า

กลัว

- โดนเพื่อนจับได้เรื่องใช้ยาสีฟันเด็ก

ฟังดูเป็นความกลัวไร้สาระแต่พลจะจริงจังกับการพยายามปิดบังความจริงข้อนี้มาก

ส่วนนึงเพราะลึกๆเจ้าตัวเองก็รู้ดีว่าเด็กม.ปลายใช้ยาสีฟันรสส้มมันไม่ค่อยปกติเท่าไรนัก

แต่ความเกลียดมินต์มันมีมากกว่าเลยไม่เคยคิดจะลองใช้ยาสีฟันธรรมดาเป็นจริงเป็นจังดูเลยสักที

ตอนยังเรียนประจำพลจะเป็นคนสุดท้ายที่แปรงฟันก่อนนอน โดยแอบเอายาสีฟันซ่อนในกระเป๋ากางเกง

เดินไปเข้าห้องน้ำ รีบบีบยาฟันแล้วรีบเก็บเข้ากระเป๋าตามเดิม

11. งานอดิเรก

- อ่านหนังสือ พลจะชอบอ่านหนังสือของแก้วเก้า ว.วินิจฉัยกุล ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช และวรรณกรรมแปลเป็นหลัก

- เล่นดนตรี โดยเฉพาะระนาด

- ทำงานฝีมือ (ร้อยมาลัย ปักสะดึง ครอสติช)

- ทำงานบ้าน ปัดกวาดเช็ดถู เช็ดเครื่องเรือน  

12. สายการเรียน

ศิลป์ - ฝรั่งเศส

13. วิชาที่ชอบ / ไม่ชอบ (พร้อมเหตุผลในแต่ละอัน)

วิชาที่ชอบ

ภาษาไทย : โดยเฉพาะวรรณคดีไทยและกลอนทำนองเสนาะแม้จะไม่ค่อยถูกโรคกับหลักภาษา(พวกหลักคำสมาส-สนธิ)

ส่วนหนึ่งเพราะพลโตมากับสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยหนังสือวรรณกรรมเก่าๆของยาย

สังคม(ประวัติศาสตร์) : ได้อิทธิพลมาจากการอ่านนิยายเก่าๆที่มีโครงเรื่องอยู่ในช่วงอดีตทำให้พลอยากรู้เรื่องเกี่ยวกับช่วงเวลานั้นๆเพิ่มเติม

วิชาที่ไม่ชอบ

วิทยาศาสตร์ และ คณิตศาสตร์

เกิดจากการที่พลเรียนสองวิชานี้ไม่ค่อยเข้าใจในช่วงม.ต้น บวกกับอาจารย์ของพลในตอนนั้นไม่ค่อยจะญาติดีกับ

เขานัก และชอบบอกว่าพลหัวไม่ดี เรียนสองวิชานี้ไม่ได้ แล้วพลก็ดันเชื่อเสียด้วย

14. วิชาที่ถนัด / ไม่ถนัด (พร้อมเหตุผลในแต่ละอัน)

วิชาที่ถนัด

ภาษาไทย :

เพราะเป็นคนอ่านเยอะ และอ่านหนังสือหลายแนว ส่งผลให้ทักษะในการใช้ภาษาของพลอยู่ในระดับที่ดี

รวมถึงทักษะที่เกี่ยวข้องกับกาพย์กลอน โดยเฉพาะการอ่านทำนองเสนาะที่คุณยายเคี่ยวเข็ญให้อ่านให้ฟังทุกคืน

วิชาที่ไม่ถนัด

วิทยาศาสตร์ และ คณิตศาสตร์ :

เหตุผลเดียวกับที่กล่าวไปข้างต้น เพราะไม่มีแรงจูงใจในการเรียน เกรดของพลเลยยิ่งตกลงจนน่าใจหาย

คอมพิวเตอร์ :

พลไม่ถูกโรคกับวิชานี้เป็นอย่างมากเพราะหัวช้าและโบราณกับเทคโนโลยีต่างๆ

แค่พิมพ์รายงานลงไมโครซอฟต์เวิร์ดแล้วพิมพ์ออกมาได้พลก็รู้สึกเหมือนเป็นอภินิหารแล้ว

15. คะแนนวิชาต่างๆในตอน ม.3

วิทยาศาสตร์ 2

- ฟิสิกส์ 2 เคมี 2 ชีวะ 2

คณิตศาสตร์ 2

ภาษาไทย 4

ภาษาอังกฤษ 3.5

สังคม 3.5

ศิลปะ 3.5

ดนตรี 3.5

พละ 3

คอมพิวเตอร์ 2.5

การงานและพื้นฐานอาชีพ 4

16. ความสามารถพิเศษในการเรียน

- ถนัดการแต่งกาพย์กลอนโดยเฉพาะกาพย์ยานี โดนเลือกเป็นตัวแทนไปแข่งแต่งกลอนบ่อยครั้ง

- อ่านทำนองเสนาะได้ดี ตอนอยู่โรงเรียนเก่าเคยเป็นคนขับทำนองเสนาะตามพิธีต่างๆของโรงเรียน(เช่นนำสวดปาเจรา)

- มีทักษะด้านดนตรีไทย เล่นระนาด ขิม ฆ้องวง และซอสามสายเป็น แต่จะถนัดระนาดเป็นหลัก

- พอจะมีความรู้ในการเล่นบาสเก็ตบอลบ้าง แต่ไม่ได้เก่งดีเลิศ แค่รู้กฏกติกาพื้นฐานต่างๆและเล่นเป็น

- เก่งพวกงานหัตถกรรมที่ต้องใช้ความละเอียดอ่อนและความอดทนสูง หนักไปทางหัตถกรรมไทยพวกงานปัก

และร้อยดอกไม้ กับงานประเภทอื่นที่ยังไม่เคยทำ อาจใช้เวลาเรียนรู้พักหนึ่ง พอเข้าใจแล้วก็จะทำออกมาได้ดี

- เล่นรักบี้เป็นจากการอยู่วชิราวุธมานานแต่ก็ไม่ได้ชอบเป็นพิเศษ

17.ลักษณะคนที่จะเป็นเพื่อนได้

 คนที่มีลักษณะเป็นมิตร แต่ก็ไม่เป็นมิตรจนลามปามเกินไป

(เช่นคนที่เจอกันแค่วันเดียวก็เล่นหัวกันแล้ว พลจะไม่ถึงกับเกลียด แต่จะกระอักกระอ่วนใจพอควร)

คนที่สนใจในเรื่องเดียวกัน ไม่เรื่องมาก ติดดิน ง่ายๆ จะรู้สึกถูกชะตาเป็นพิเศษ

บางทีพลจะเรียกสั้นๆว่าตัวเองจะเป็นเพื่อนได้ดีกับ "คนที่มีศีลเสมอกัน" (คือลักษณะนิสัยใจคอใกล้เคียงกัน) 

18. ลักษณะคนที่ไม่ถูกชะตา

ไม่มีเป็นพิเศษ แต่จะรู้สึกตะขิดตะขวงใจกับคนที่กระด้าง ไม่ให้เกียรติผู้อื่น

เช่นคนพูดจาขวานผ่าซาก คนที่ยึดตัวเองเป็นที่ตั้ง คนที่ไม่ยอมฟังความเห็นผู้อื่น เป็นต้น

เวลาเจอคนประเภทนี้พลจะพยายามไม่คิดอคติ แต่ถ้าเจอคนแบบนี้ซ้ำๆ พลก็มีน้ำโหได้เหมือนกัน

กับผู้หญิงพลจะรู้สึกไม่อยากข้องแวะกับคนประเภท "คุณหนู" ผู้เอาแต่สวยไปวันๆแต่ไม่มีจิตสาธารณะ พลจะไม่ค่อยอยากคบหามากนัก

19. เสป็กในดวงใจ 

 นางในฝันคือสาวกุลสตรีไทยโบราณแบบแม่พลอย สุภาพ อ่อนหวาน แช่มช้อย

แต่เอาเข้าจริงเจ้าตัวก็ไม่ซีเรียสกับเรื่องพวกนี้มากนัก 

20. สัญชาติ, เชื้อชาติ, ภาษาที่พูดได้ , และศาสนา

สัญชาติไทย

เชื้อชาติไทย ลูกเสี้ยวจีน

ศาสนา พุทธ 

ภาษาที่พูดได้

ไทย

ใช้ภาษาไทยได้ในระดับดีมาก เขียนถูกต้องตามหลักภาษา

ไม่ใช้ภาษาวิบัติเพราะไม่ได้ใช้อินเทอร์เน็ตมากนัก และถึงแม้จะใช้ พลก็ไม่คิดจะลองใช้ภาษาวิบัติตามกระแสอยู่ดี

 อังกฤษ

อยู่ในเกณฑ์ใช้ได้แม้สำเนียงการพูดจะออกไทยจ๋ามากก็ตาม 

สำหรับภาษาฝรั่งเศสนั้น พลไม่มีพื้นฐานเลยแม้แต่น้อย

21.ครอบครัว (ระบุมา ‘พอสังเขป’ ยังไม่ต้องระบุรายละเอียดของแต่ละคน)

- แม่กับพ่อของพลหย่ากันตั้งแต่พลยังเด็ก

- พลใช้ชีวิตวัยเด็กอยู่กับแม่ที่ผันตัวเป็นซิงเกิลมัมอยู่พักใหญ่ แต่เพราะแม่กลัวพลเป็นเด็กขาดความอบอุ่นเพราะ

ปัญหาครอบครัว ในช่วงแรกๆ พลจึงถูกแม่ตามใจมากไป ไม่ว่าขออะไรแม่ก็ให้ แม่ก็โอ๋ 

จนถึงตอนนี้พลก็ยังติดนิสัยเอาแต่ใจเล็กๆที่แสดงออกมาทางความ"ดื้อ"

- คุณยายเห็นอย่างนั้นก็กลัวพลจะเสียคนเลยขอ(แกมบังคับแม่) เป็นคนดูแลพลแทน จนขึ้นป.4 ยายก็รีบก็ส่งพลไป

เรียนโรงเรียนประจำเพื่อให้พลรู้จักดูแลตัวเองเป็น

- ความโบราณของพลนั้นสาเหตุหลักมาจากการที่คุณยายซึ่งเป็นเหมือนเสาหลักของบ้านเป็นคนเข้มงวดมาก 

และสั่งห้ามไม่ให้พลออกไปเตร็ดเตร่นอกโรงเรียนกับเพื่อนตั้งแต่ยังเล็กเพราะกลัวจะทำให้เสียคน

ถึงแม้ว่าในมุมมองของคุณยาย ณ ตอนนี้ พลสามารถออกไปเที่ยวกับเพื่อนได้แล้ว พลก็ยัง"เกรง"คุณยายอยู่

เลยไม่เคยกล้าเอ่ยปากขออนุญาตเลยสักครั้ง

- พอพลใกล้จะขึ้นม.ปลายคุณยายกลัวว่าพลจะมีปัญหาเรื่องการปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนต่างเพศในอนาคต เลยตัดสิน

ใจส่งพลมาลองสอบเข้าที่นี่ดู

- ตอนนี้แม่ของพลได้เลื่อนตำแหน่งและย้ายไปประจำสำนักงานในต่างประเทศ นานๆจะกลับมาไทยสักครั้ง และพักอยู่ที่บ้านคุณยาย

- บ้านของพลอยู่ในสวนแถวฝั่งธนบุรี หากสอบเข้าได้พลจะนั่งรถมาลงที่รถไฟฟ้าและใช้บริการรถโรงเรียน

22. อื่นๆ

- ถึงแม้พลจะไม่ค่อยได้ออกไปไหนมาไหนกับเพื่อนที่โรงเรียนเก่าแต่ก็มีเพื่อนสนิทที่โตด้วยกันมาอยู่จำนวนหนึ่ง

ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับใครเป็นพิเศษ สาเหตุหลักๆที่ออกจากโรงเรียนก็เป็นเพราะคุณยายล้วนๆ

เนื้อเรื่องที่เกี่ยวข้อง

สอบสัมภาษณ์

Advertisement