วี - นาวี สุวรรณรัตน์
V - Navy Suwannarat | |
---|---|
ชื่อ-นามสกุล |
นาวี สุวรรณรัตน์ (Navy Suwannarat) |
ชื่อเล่น |
วี (V) |
วันเกิด (อายุ นับถึงปี 2559) |
27 ธันวาคม พ.ศ.2540 (18 ปี) |
เพศ (รสนิยมทางเพศ) |
ชาย - ไบเซ็กชัวล์ |
สถานะ |
นักเรียนรุ่นที่ 6 (2556-2558) |
แผนการเรียน |
วิทย์-คณิต |
ส่วนสูง-น้ำหนัก |
170 เซนติเมตร / 60 กิโลกรัม |
ศาสนา |
พุทธ |
กรุ๊ปเลือด |
n/a |
ชมรม |
ศิลปะ |
วี - นาวี สุวรรณรัตน์
ข้อมูลทั่วไป
DB1
1. ชื่อจริง / นามสกุล / (ชื่อเล่น)
นาวี สุวรรณรัตน์ [นาวี,วี] Navy Suwannarut [Navy,V]
2. อายุ (นับตามอายุในวันที่ 1 พฤษภาคม 2556)
15
3. วัน เดือน ปี เกิด (ซึ่งจะส่งผลต่ออายุ)
27 ธันวาคม 2540
4. เพศ (ชาย / หญิง) รสนิยมทางเพศ (ระบุด้วย)
เพศชาย
รสนิยมทางเพศ : ไบเซ็กชวล แต่จะเอนเอียงไปทางเพศหญิงมากกว่า เนื่องจากค่านิยมที่ถูกสอนมาตั้งแต่เด็กว่าผู้ชายต้องคู่กับผู้หญิง แต่ในความรู้สึกส่วนตัว ก็ไม่ได้รังเกียจผู้ชายเท่าไร คิดว่าคงรับได้หากจะมีความสัมพันธ์กับเพศเดียวกัน ในปัจจุบันยังไม่คิดจะมีแฟน เป็นความรู้สึกแบบ มีก็ได้ไม่มีก็ได้
5. ความสูง (ใช้หน่วย ซม. ไม่มีทศนิยม) น้ำหนัก (จำเป็นต่อการวาดในอนาคต)
สูง 170 cm
หนัก 60 kg.
6. รูปพรรณสัณฐาน *นาวีในชุดนักเรียนโรงเรียนลูกบาศก์*
**ในวันสอบสัมภาษณ์ ใส่เครื่องแบบนักเรียนชาย กางเกงสีดำ เป็นเครื่องแบบสมัย ม.ต้น **
เป็นเด็กผู้ชายรูปร่างค่อนข้างสันทัด
ใบหน้าเรียว หน้าผากค่อนข้างกว้าง แต่ผมปรกลงมาปิดไว้ ดวงตาชั้นเดียวสีน้ำตาลเข้ม ใบหน้าออกไปทางจีน/ญี่ปุ่น
ใส่แว่นตากรอบสีแดง สายตาสั้น+เอียง ซ้าย 500 ขวา 430 เอียงข้างละ 100 กว่าๆ
ถ้าถอดแว่นจะค่อนข้างเบลอมาก
เจาะหูข้างซ้าย บางทีก็ใส่ตุ้มหู บางทีก็เสียบไว้แค่ก้านพลาสติกกันรูตัน
จมูกไม่ค่อยมีดั้ง แต่ไม่ได้ยุบจนน่าเกลียด
ผมสีน้ำตาลเข้ม เริ่มจะยาวเกินไปแล้ว [หลบหลีกการตรวจผมมาตั้งแต่ปลายเทอม 2 ม.3]
ผิวสีออกขาวสว่าง จากเชื้อสายญี่ปุ่นของแม่
7. ลักษณะนิสัยและพฤติกรรมต่างๆของตัวละคร
Keyword : ตรงไปตรงมา / รักอิสระไม่ซีเรียส / รักพวกพ้อง / เด็กน้อย / ศิลปิน
+ ตรงไปตรงมา
- นาวีมักจะแสดงอารมณ์และคำพูดของตัว เองออกมาตรงไปตรงมาเสมอ ชอบหรือไม่ชอบก็พูด สนุกหรือมีความสุขก็ยิ้ม โกรธก็ขมวดคิ้วหรี่ตามอง เศร้าก็เงียบหรืออาจจะร้องไห้
- และอารมณ์เหล่านั้น นาวีก็จะแสดงออกมาเต็มที่ แบบที่รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ จนบางทีก็อาจจะดูโอเวอร์แบบเสแสร้งเช่น
[อารมณ์ดี , สมหวัง]
"เอ้ยยยยยย!!!! สอบติดแล้วเว้ยยยย!!!!!! ฮิ้ววววว ป๊า ป๊าปิดซอยฉลองให้วีเลยนะป๊า" นาวีตะโกนออกมาสุดเสียง สองมือชูขึ้นท้องฟ้า กระโดดไปมารอบๆผู้เป็นพ่ออย่างมีความสุข
[อารมณ์เศร้าเสียใจ]
"ฮือออออ ทำไมมันจบแบบนี้ล่ะวะ? ให้แม็กซ์ได้เจอแมรี่ก่อนตายก็ไม่ได้ จบแบบนี้มันเจ็บปวดเกินไปนะเว้ย ฮึก.....ฮืออออ โว้ยยย เรื่องนี้ไม่ดูซ้ำเด็ดขาดเลยแม่ง " นาวีดึงชายผ้าห่มขึ้นมาซับน้ำตาพลางบ่นเสียงดังไปสะอื้นไปหลังจากดูอนิเม ชั่นฝรั่งเรื่อง Marry & Max จบ
- ในการแสดงคำพูดก็เช่นกัน ถ้าไม่ชอบ หรือไม่พอใจ นาวีก็จะพูดออกมาตามความรู้สึกนั้นๆ เช่น
"โหยม้าครับ ม้าตัดผมทรงอะไรเนี่ย วีว่ามันทอมมากเลยนะม้า ไม่ไหวๆ ม้าเปลี่ยนเถอะนะ"
จึงทำให้ภาพรวมดูเป็นคนห่ามๆ ไม่ค่อยละเอียดอ่อนเท่าไร แต่ลักษณะการพูดแบบนี้ มักจะพูดกับคนสนิทเท่านั้น หากไม่สนิทจริงๆ นาวีก็จะพยายามเก็บความรู้สึกไว้ให้เป็นกาลเทศะ
- นาวีเป็นคนมีเหตุผลหรืออีโก้ของตัวเองเสมอ ชอบแสดงจุดยืนของตัวเองชัดเจน จึงมักจะคัดค้านทุกครั้งที่มีใครมาเปิดประเด็นในเรื่องที่ ไม่ตรงกับเหตุผลของตัวเอง เช่น
"ทำไมล่ะครับอาจารย์? เพศที่สามนี่ต้องสำส่อนกันหมดทุกคนเลยเหรอครับ ผมไม่เข้าใจ อาจารย์เอามาตรฐานส่วนไหนมาวัดครับ มันไม่ใช่ยุคที่จะต้องมานั่งแบ่งแยกเรื่องพวกนี้แล้วนะอาจารย์ครับ" นาวียิงคำถามใส่อาจารย์วิชาสุขศึกษาด้วยท่าทางจริงจัง
+รักอิสระไม่ซีเรียส
- เป็นคนสมาธิสั้น มักอยู่นิ่งๆไม่ค่อยได้ [แต่ไม่ถึงขึ้นเป็นเด็กไฮเปอร์แอคทีฟ] จึงชอบเล่นกิจกรรมกลางแจ้ง และมักจะอาสาทำงานที่ใช้แรงบ่อยๆ
- ไม่ชอบกฎระเบียบ ที่ตายตัว จึงมักจะแอบๆ ยืดหยุ่นกฎเองเสมอ อย่างเช่น กฏระเบียบทรงผมนักเรียนม.ต้น ผมด้านหน้าของนักเรียนชายห้ามเกิน 2 เซนติเมตร นาวีก็จะให้มันยาวซักสองครึ่งหรือสามเซนติเมตร หรือบางเดือนไม่มีการตรวจ ก็จะเนียนปล่อยๆยาวไป รวมถึงเครื่องแต่งกายที่ไม่ตามระเบียบตลอดเวลา ประมาณว่าช่วงเช้าจะค่อนข้างเรียบร้อย ช่วงบ่ายๆจะหลุดลุ่ยตามประสาคนไม่อยู่นิ่ง
- แม้จะเป็นคนชอบแสดงจุดยืนของตัวเองชัดเจนขนาดไหน แต่หากไม่ใช่เรื่องสำคัญมากนัก ก็ไม่ค่อยพูดซ้ำบ่อยๆ มักจะปล่อยผ่านไป
นาวีไม่ใช่คนซีเรียส และไม่ชอบบรรยากาศซีเรียส เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ซีเรียสก็จะพยายามหันเหความสนใจคนอื่นไปในเรื่องที่ผ่อนคลาย แต่บางทีอาจไม่ช่วยอะไรนัก เช่น
"เฮ้ย เครียดทำไมเล่า? นี่ มาดูนี่เลยนี่ อเวนเจอร์ สการ์เลต โจแฮนสัน เล่นเรื่องนี้โคตรเท่อะ ดูดิมีโมเดลขายด้วย" นาวีชูโบรชัวร์ร้านของเล่นกับแผ่นดีวีดีขึ้นแล้วโบกไปมาระหว่างคนสองคนที่จ้องตากันอย่างมาคุ
+ รักพวกพ้อง
- นาวีเป็นคน ใจกล้า และรักเพื่อน โดยปกติจะเป็นคนรักสงบ แต่ส่วนมากเมื่อมีเรื่องชกต่อยมักจะเป็นเรื่องไปช่วยเพื่อน หรือเป็นเรื่องของเพื่อน เช่น
เพื่อน A มีปัญหาเรื่องผู้หญิงกับนาย B นาย B จึงยกพวกมาจะรุมเพื่อน A บริเวณหลังโรงเรียน นาวีจึงวิ่งเข้าไปห้ามทัพ พรรคพวกของนาย B เห็นว่านาวีจะเข้ามาช่วยเพื่อน จึงเตรียมพร้อมจะรุมนาวีด้วย เห็นดังนั้น นาวีจึงเงื้อหมัดต่อยหน้าคนที่อยู่ใกล้ที่สุด หลังจากนั้นก็เกิดเหตุการณ์ตะลุมบอนครั้งใหญ่
ในสถานการณ์นั้น ไม่ว่าฝ่ายไหนจะผิด หากนาวีรู้สึกว่า"เป็นอันตรายต่อตนเองและเพื่อน" ก็มักจะชิงลงมือก่อนเสมอ แต่หากเป็นเรื่องมีปากเสียงกันเล็กๆน้อยๆ นาวีจะใช้เหตุผลของตัวเองในการตัดสิน ใช้วิจารณญาณดูเอาว่าใครเป็นฝ่ายผิด และช่วยไกล่เกลี่ยให้ต่อไป
+ เด็กน้อย
เป็นคนนิสัยเด็ก มีความเป็นเด็กสูงในบางด้าน เช่น
- มักถูกสิ่งรอบตัวดึงดูดความสนใจง่ายๆเสมอ ดังตัวอย่าง
'นาวีตั้งใจจะเดินไปซื้อข้าวผัดกะเพราหน้าปากซอย แต่เจอหมาโกลด์เด้นตัวใหญ่อยู่ข้างทาง นาวีจึงโผเข้าหาหมาตัวนั้น และนั่งเล่นด้วยอยู่เป็นชั่วโมง'
- นิสัยที่ดูเป็นเด็กอื่นๆ อย่างเช่น เป็นคนติดครอบครัว บางทีก็เอาแต่ใจ เฉพาะในสิ่งที่ตัวเองสนใจ ชอบทำท่างอแง[ในลักษณะเล่นขำๆ] ใส่พ่อแม่ หรือเพื่อนๆ
+ ศิลปิน
นาวีชอบวาดภาพและเล่นดนตรี และชอบเสพงานศิลป์ทุกชนิด [ภาพยนตร์ การ์ตูน รูปภาพ ดนตรี ] บางทีก็มีอารมณ์ศิลป์ หนีเพื่อนหนีพ่อไปนั่งดีดกีตาร์ หรือวาดรูปอยู่ในมุมเงียบๆคนเดียวด้วย
8. การใช้คำพูด
+ กับบุคคลทั่วไป +
1)กรณีรุ่นเดียวกัน ใช้คำว่า :
เรา , ฉัน - นาย,เธอ [ในกรณีเพิ่งเคยเจอกันหรือไม่สนิท] , แก,เธอ[ในกรณีสนิทกันแล้ว แต่ไม่สะดวกใจจะใช้คำหยาบ] ,กู - มึง [ในกรณีสนิทกันและยอมรับการใช้คำหยาบ] เช่น
"หวัดดี เธอ....? หัวหน้าห้องใช่ปะ? ชื่ออะไรนะ?? เราชื่อนาวี เรียกวีก็ได้" [กรณีเพิ่งเจอกันหรือไม่สนิท]
"เฮ้ย [ชื่อคน] แก ส่งงานวิชาเคมีรึยังวะ? เอามานี่มา ให้เราลอกบ้างดิ" [ในกรณีสนิทกันแล้ว แต่ไม่สะดวกใจจะใช้คำหยาบ]
"เฮ้ยมึง ไอรอนแมนภาคสามเข้าเมษานี้ว่ะ ว่างวันไหนวะ ไปดูเป็นเพื่อนกูหน่อยปะ" [ในกรณีสนิทกันและยอมรับการใช้คำหยาบ]
ลักษณะการพูดลงท้ายจะห้วนๆ ความสุภาพจะไม่มีเท่าไร เพราะเป็นรุ่นเดียวกัน
2)กรณีเป็นผู้ใหญ่หรือต่างรุ่น ใช้คำเรียก แล้วแต่อายุและสถานภาพ เช่น
- เรียกพ่อกับแม่ตัวเองว่าป๊ากับม้า เรียกแทนตัวเองด้วยชื่อเล่น
"ป๊าดูดีๆดิ นี่ไงครับป๊า หน้านี้อะ เป็นไทม์ไลน์เฟสบุ้คป๊า อันนี้เป็นผังครอบครัว วีใส่ชื่อวีลงไปแล้ว นี่ไง พอป๊ากดเข้าไปก็จะเป็นเฟสวี อันนี้เฟสไอ้วา"
"ม้าคร้่าบบบบ คิดถึงม้าอะ เชียงรายเป็นยังไงบ้างม้า หนาวป่ะ? วีอยู่กรุงเทพฯนี่โคตรร้อนอะม้า ไอ้วาเป็นไงมั่ง?"
- เรียกพี่ชายตัวเองด้วยชื่อหรือมึง เรียกตัวเองด้วย กู หรือ ชื่อเล่นตนเอง
"เฮ้ยยย ไอ้วา เป็นไงบ้างวะ?? สาวเหนือน่ารักปะ? กูแม่งโคตรคิดถึงมึงเลยอะ ดูดิ ถ้าวาอยู่นะ วีแม่งคงไม่ต้องมานั่งปวดหัวกับวิชาเคมีหรอก โคตรยากเลยอะ"
[เวลาที่นาวีเรียกชื่อแทนตัวเอง จะเรียกเป็นชื่อเล่น(วี) เสมอ ส่วนชื่อนาวี มักจะเป็นเพื่อนๆเรียกควบชื่อจริง]
เรียกแม่บ้าน[หรือใกล้เคียง]ว่าป้า เรียกภารโรง[หรือใกล้เคียง]ว่าลุง [ดูแล้วอายุน่าจะมากกว่าพ่อ-แม่ ตัวเอง ้าต่ำกว่าก็เป็น น้า] เรียกตัวเองว่าผม
"ลุงๆ อาจารย์..... ให้มาตามลุงไปเก็บซากหมาไอ้ด่างที่โดนวางยาตายเมื่อเช้าอะลุง แถวๆหน้าโรงเรียนโน่น"
- เรียกอาจารย์ ว่า อาจารย์ , จารย์ , ครู ตามลำดับความสนิทของอาจารย์คนนั้น เรียกตัวเองว่าผม
เช่น
"อาจารย์ครับ เอกสารที่ยกมาให้เอาไปวางไว้ไหนครับ???"
"โหย 'จารย์ครับ วันนี้พวกผมเรียนมาหนักจะตาย เนื้อยเหนื่อย 'จารย์ไม่ต้องสอนหรอกเนอะ"
"ครู[ตามด้วยชื่อเล่น]ๆ วันนี้เย็นๆครูว่างปะครับ? ไปกินเนื้อย่างกันครู"
- เรียกบุคลากรพิเศษ ใช้ "ชื่อตำแหน่ง" [ในกรณีที่รู้ตำแหน่ง] หรือคุณ กับ"ผม"
เช่น
"สวัสดีครับ ผ.อ. อ่า....อาจารย์.....ให้มารบกวนเชิญ ผ.อ.ไปประเมินระบบเข้าแถวของม.สามหน่อยได้มั้ยครับ?"
- เรียกรุ่นพี่ ว่า "พี่ - เฮีย -เจ๊" ตามความสนิทและเป็นกันเองของคนๆนั้น เรียกแทนตัวเองว่า"ผม" ระดับความสุภาพปกติ ไม่มากน้อยจนเกินไป เช่น
"พี่[ชื่อ]ๆ อาจารย์..ให้มาตามไปช่วยยกของหน่อยพี่"
"เฮียรูปหล่อคนนั้นอะคร้าบ....ขอผมเกาะท้ายรถเฮียกลับบ้านหน่อยคร้าบ"
- เรียกรุ่นน้อง ด้วย ชื่อปกติของคนๆนั้น/น้อง/แก/มึง เรียกแทนตัวเองด้วย/พี่/กู ตามความสนิทและคนที่พูดด้วย เช่น น้อง-พี่ มักใช้กับรุ่นน้องผู้หญิง หรือผู้ชายทีมีนิสัยเรียบร้อย เป็นต้น
ตัวอย่าง
"[ชื่อรุ่นน้อง] แกไปหยิบกระเป๋าพี่ที่หน้าห้อง 202 ให้หน่อยดิ"
"น้องครับๆ น้องหยิบกระเป๋าสลับกับพี่เปล่า?"
"เฮ้ย ไอ้.... มึงไปทำอะไรมาวะ ตัวเปียกโชกเชียะ??"
9. สิ่งที่ชอบ - หนังเกือบทุกๆแนว
นาวีชอบดูหนังฝรั่ง จำพวกหนังฮีโร่ หนังตลก หนังแอคชั่น หนังผี และหนังดราม่า [แต่ไม่ชอบหนังซีเรียสและหนังรัก ยกเว้นหนังของ สการ์เลต โจแฮนสัน] และเวลาดูก็จะอินกับอารมณ์หนังไปด้วย อย่างเช่น ดูหนังดราม่าแล้วร้องไห้เป็นต้น มักจะซื้อแผ่นหนังเก็บ หรือหาเวลาไปดูที่โรงเสมอ ถ้าได้ซื้อหรือดูหนังที่ต้องการ จะอารมณ์ดีมาก แบบเห็นแผ่นหนังที่ตามหาวางอยู่บนแผงขาย จะตาเป็นประกาย เช็คเงินในกระเป๋าแล้ววิ่งเข้าใส่เลย แต่ถ้าอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถไปซื้อหรือไปดูได้ทั้งๆที่หนังเรื่องนั้น วางอยู่ตรงหน้า จะทำตาละห้อย ซึมไปพักใหญ่ๆ แต่หลังจากนั้นก็หาโอกาสมาซื้อมาดูอยู่ดี
- การ์ตูน
ชอบทั้งดูและอ่านการ์ตูนแนวฮีโร่ แอคชั่น ตลก ผี และดราม่าเช่นกัน และยังมีอาการเดียวกันกับเวลาดูหนังอีกด้วย
- หมา
ชอบหมามากๆ เห็นที่ไหนเป็นต้องดี๊ด๊าเข้าไปเล่นด้วยเสมอ หรือก็จะมองตาม ไม่ว่าจะเป็นหมาพันธุ์ใหญ่หรือหมากระเป๋าตัวเล็ก แต่ชอบหมาใหญ่มากกว่า ในแง่ของความสะดวกในการเล่นด้วย
- งานศิลปะ
ชอบดูคนวาดรูป อย่างพวกศิลปินที่มักจะมานั่งรับจ้างวาดภาพเหมือน หรือวาดรูปวิวขายตามริมถนน มักจะไปยืนดูนานๆ ที่ชอบเป็นพิเศษคืองานประเภท abstract และพวกงานเทคนิคสีน้ำต่างๆ
- ดนตรี
ชอบฟังการแสดงดนตรี ถ้าเห็นเปิดหมวกตามข้างทางก็มักจะไปยืนดู แล้วสามารถยืนได้นานมากด้วย แนว เพลงที่ชอบนั้น นาวีฟังเพลงได้ทุกแนว แล้วแต่ความรู้สึกของตัวเองว่า ชอบเพลงไหน คือ ถ้าเป็นเพลงป๊อปร็อคสองเพลง นาวีอาจจะชอบเพลงแรก แต่ไม่ชอบเพลงที่สอง แต่ส่วนมากที่มักจะโหลดเก็บไว้ฟังหรือฝึกเล่น จะเป็นเพลงแนวบอสซ่า เบาๆเย็นๆ
10. สิ่งที่เกลียด,กลัว
สิ่งที่กลัว
- กลัวแมงมุม แมงป่อง หรือแมลงที่มีขายุ่บยั่บๆ [ตะขาบหรือกิ้งกือตัวโตๆ]
เพราะสมัยเด็กเคยโดนแมงป่องต่อย เลยฝังใจ ถ้าเจอก็จะเดินหนี หลบเลี่ยงที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็จะหยิบอะไรซักอย่างมาบี้มัน หากโดนแกล้งโยนใส่จะร้องแล้ววิ่งหนี
- กลัวผี
แต่ก็ชอบดูหนังผี เวลาดูที่บ้านมักจะคลุมโปง และหาเพื่อนดูด้วยเสมอ แต่ถ้าดูในโรง ังไงก็จะลากเพื่อนไปด้วย และเป็นพวกแรกๆที่แหกปากเลย
สิ่งที่เกลียด
- เกลียดเรื่องซีเรียส
เพราะโดยพื้นฐาน นาวีเป็นคนสบายๆ และนิสัยเด็ก จึงไม่ชอบที่จะโดนกดดันในเรื่องที่ซีเรียส ถ้าเป็นคนที่ซีเรียสๆ ก็อาจะจะแค่ไม่ชอบ จะพยายามเลี่ยงๆไม่คุยกับคนๆนั้น แต่ถ้าเป็นมากเกินไป ถ้าตัวเองโดนหางเลขไปด้วย ก็อาจเกลียดไปเลย
- เกลียดคนที่มีอคติในอะไรที่มากเกินไป
เรียกได้ว่านาวีเป็นคนที่มีอคติกับคนที่มีอคติ คือ ไม่ชอบเลย ถ้าเป็นระดับเบาๆก็จะไม่คิดอะไรมาก แต่ถ้ามากเกินไปก็ไม่เอา เช่น คนที่มีอคติกับประเทศเกาหลี แบบที่อะไรๆก็ด่า เป็นต้น
- เกลียดวิชาที่ต้องใช้การคำนวณ
เพราะมีความรู้สึกว่ามันช่างเน่าเบื่อ เช่น คณิตศาสตร์ เคมี ฟิสิกส์ แต่ถ้าตั้งใจก็สามารถทนๆทำไปได้
11. งานอดิเรก
- นาวีชอบวาดภาพมากที่สุด ส่วนมากจะเป็นภาพการ์ตูนแนวๆฮีโร่อะไรไปเรื่อย บางทีก็นั่งวาดการ์ตูน ล้อเลียนเพื่อนในห้อง มีฝีมืออยู่พอตัวเลย แต่ไม่ถึงกับเก่งมาก เวลาวาดรูปจะเงียบมากๆ เพราะใช้สมาธิ แต่ก็จะแค่ช่วงพักเดียว เพราะเป็นคนสมาธิสั้น
- ชอบฟังเพลง และเล่นดนตรี[กีตาร์] ด้วย แต่ก็ไม่เก่งมาก เล่นก๊องแก๊งๆไปเรื่อย
12. สายการเรียน วิทย์-คณิต
เพราะเจ้าตัวอยากจะเป็นเด็กวิทย์ที่สอบเข้ามหาลัยศิลปะได้
13. วิชาที่ชอบ / ไม่ชอบ
ชอบ > ชอบมากไปจนถึงชอบเฉยๆ
วิชาศิลปะ เพราะ เป็นความชอบส่วนตัวในด้านศิลปะอยู่แล้ว ทั้งดนตรีและการวาดภาพ
สังคมและประวัติศาสตร์ เพราะ เนื้อหามักจะเป็นมุมมองของบ้านเมืองและเรื่องราวในอดีต เรียนแล้วให้ความรู้สึกเหมือนดูหนังเรื่องหนึ่ง
วิชาภาษาทุกแขนง เพราะ รู้สึกว่าภาษาเป็นสิ่งน่าสนใจ และตัวเองเรียนรู้เรื่อง เลยรู้สึกชอบและภูมิใจมาก
วิชาวิทยาศาสตร์สายชีวะ เพราะ เนื้อหาน่าตื่นเต้น มีอะไรแปลกใหม่เสมอ และไม่ต้องใช้ความสามารถในการคำนวณ
ไม่ชอบ > ไม่ชอบมากไปจนถึงไม่ชอบเฉยๆ
วิชาภาษาอังกฤษ เพราะครูผู้สอน เนื่องจากมักจะมีปัญหากับครูผู้สอนในเรื่องความถูกต้องของไวยยากรณ์เสมอ.....[ยกตัวอย่างกรณี ครูสอนผิด นาวีก็จะค้าน ซึ่งมากๆเข้าเลยโดนเพ่งเล็งเป็นพิเศษ]
14. วิชาที่ถนัด / ไม่ถนัด
ถนัด > ถนัดมากไปจนถึงถนัดเฉยๆ
วิชาภาษาอังกฤษ เพราะ เป็นคนชอบดูหนังฝรั่งด้วย เลยสามารถอ่านออกแปลเขียนได้ แต่ไวยากรณ์ยังไม่เป๊ะนัก มีผิดบ้างในกรณีเผอเรอ และด้วยความที่มักมีปัญหากับครูผู้สอน เลยยิ่งตั้งใจเรียนให้เก่งๆเพื่อข่มครู
วิชาสังคมและประวัติศาสตร์ เพราะ ตัวเองรู้สึกว่าเรียนสนุก และมีแรงจูงใจในการเรียน เลยตั้งใจ ผลที่ได้คือรู้เรื่องและทำคะแนนดี
วิชาศิลปะ เพราะ ตัวเองพอมีพื้นฐานอยู่บ้าง เช่นการดรอว์อิ้ง การลงสีน้ำ และเป็นสิ่งที่ชอบทำ
วิชาการงานอาชีพ ประเภทงานฝีมือ งานคหกรรม เพราะต้องอาศัยอยู่กับพ่อสองคน เลยต้องฝึกทำของพวกนี้บ่อยๆจนชำนาญ
ไม่ถนัด > ไม่ถนัดมากไปจนถึงไม่ถนัดเฉยๆ
วิชาคณิตศาสตร์ เพราะตัวนาวีไม่เก่งเรื่องการคำนวณ และไม่ชอบคำนวณ แต่ก็พยายามเรียนให้ได้คะแนนพอผ่าน โดยวิธีให้เพื่อนสอนหรือลอกเพื่อน และขยันส่งงานเอาคะแนน
วิชาวิทยาศาสตร์สายฟิสิกส์-เคมี เพราะ ไม่เก่งเรื่องการคำนวณเช่นกัน
15. คะแนนวิชาต่างๆในตอน ม.3
+ คณิตศาสตร์พื้นฐาน เกรด 3
+ คณิตศาสตร์เพิ่มเติม เกรด 2.5
+ ภาษาไทย เกรด 4
+ สังคมศึกษา เกรด 3.5
+ ประวัติศาสตร์ เกรด 4
+ การงานอาชีพและเทคโนโลยี เกรด 4
+ ภาษาต่างประเทศ เกรด 3.5 [จริงๆควรจะได้ 4 แต่เนื่องด้วยมีปัญหากับครูผู้สอนบ่อยครั้ง จึงโดนตัด]
+ ศิลปะ เกรด 4
+ สุขศึกษาและพลศึกษา เกรด 3.5
วิชาเพิ่ม
+ ฟิสิกส์ เกรด 3
+ เคมี เกรด 2.5
+ ชีววิทยา เกรด 3.5
16. ความสามารถพิเศษในการเรียน
- วาดภาพ สมัยประถม เคยประกวดวาดรูปชนะเลิศในระดับประถมปลาย หัวข้อ "วันพ่อ" แต่หลังจากนั้นก็ไม่ค่อยกระตือรือร้นในด้านงานประกวดเท่าไรนัก ฝีมือเทียบไม่ได้กับเด็กสายศิลป์จริงๆ เพราะส่วนมากที่นาวีวาดจะเป็นแนวล้อเลียนหรือตัวการ์ตูน แต่ก็รับงานวาดการ์ตูนช่องให้กับนิตยสารโรงเรียนอยู่
- งานฝีมือโรงเรียน พวกงานประเภทช่าง ต่อฉาก ประกอบอุปกรณ์ นาวีสามารถทำได้ดี รวมไปถึงงานผู้หญิงๆอย่างเย็บปักถักร้อย จึงโดนวานให้ช่วยเสมอ ช่วงหลังๆมักจะหนีเวลาโดนวาน เพราะโดนเพื่อนๆแซว
17.ลักษณะคนที่จะเป็นเพื่อนได้
คนที่ไม่ซีเรียส สบายๆเหมือนตัวเอง หรือคนที่มีรสนิยมความชอบเหมือนตัวเอง [หนัง การ์ตูน วาดภาพ ดนตรี] แต่นอกจากนี้ก็จะคุยกันได้ แค่ไม่มารุกรานนาวีเป็นพอ
18. ลักษณะคนที่ไม่ถูกชะตา
คนที่ซีเรียสตลอดเวลา มองโลกในแง่ร้าย โอ้อวด และมีอคติมากเกินเหตุ หากเจอ นาวีจะเฉยชาใส่และเลี่ยงที่จะพูดคุย หรือเลี่ยงไปได้ จะแสดงอาการ"ยียวน" พูดจะกวด แดกดันคนๆนั้น ไปเรื่อย
19. เสป็กในดวงใจ
+ คนที่ดูเท่ คล่องแคล่วว่องไว และจัดการอะไรได้ทุกอย่าง
+ ชอบสาวอายุมากกว่า สาวเปรี้ยวที่ดูเท่ๆ
+ มีอารมณ์ขันบ้าง
[ในข้อนี้ยกตัวอย่างจาก Black Widow จากหนังเรื่อง Avenger ที่นาวีชอบดูครับ เนื่องจากตัวนาวียังไม่คิดจะมีแฟนอย่างที่บอกไป และชีวิตส่วนมากอยู่กับหนัง สเป็กในดวงใจจึงมักจะเป็นนางเอกหรือตัวละครหญิงในหนังแนวแอคชั่นที่ดู]
20. สัญชาติ, เชื้อชาติ, ภาษาที่พูดได้ และศาสนา
สัญชาติไทย , เชื้อชาติ ไทย/จีน/ญี่ปุ่น [แม่เป็นลูกครึ่งไทย/ญี่ปุ่น พ่อเป็นคนไทยเชื้อสายจีน]
ภาษาที่พูดได้
ไทย , อังกฤษ [ในระดับพอสื่อสารได้ดี ไวยากรณ์ไม่ถูกต้องครบถ้วนเท่าไรนัก สำนวนปนไทยเล็กน้อย] ส่วนภาษาจีนกับญี่ปุ่น จำได้เพียงคำศัพท์ง่ายๆทั่วไป ที่พ่อกับแม่สอน
นับถือศาสนาพุทธ ตามครอบครัว
21.ครอบครัว
- เคยอยู่ด้วยกันสี่คน มี พ่อ แม่ พี่ชายฝาแฝดของนาวีที่ชื่อนาวา และนาวี
- ปัจจุบันวีอาศัยอยู่กับพ่อสองคนเพียงลำพัง[อยู่มาสามปีแล้ว]
- เนื่องจากแม่จะต้องไปทำงานที่เชียงราย และเอาพี่ชายฝาแฝดไปด้วย
- ตัวพี่ชายนั้นเป็นคนเรียนเก่งมาก ครอบครัวจึงไม่คาดหวังอะไรกับนาวีมากนัก
- ความสัมพันธ์กับพี่ชายอยู่ในระดับดีมาก เป็นฝาแฝดที่สนิทกันดี มักจะโทรคุยกันบ่อยๆ
- ช่วงเวลาปิดเทอม ครอบครัวจะมาเจอหน้ากัน เที่ยวกันบ้าง บางปีก็ที่เชียงราย บางปีก็ที่กรุงเทพฯ หรือไปเที่ยวต่างจังหวัด/ต่างประเทศ กัน
- ฐานะทางบ้านค่อนข้างดี
- พ่อทำงานเป็นบรรณาธิการและนักเขียนอิสระ ของสำนักพิมพ์หนึ่ง ส่วนแม่ทำงานเป็นผู้จัดการโรงแรมชื่อดังในจ.เชียงราย[ถูกย้ายไป]
22. อื่นๆ
- ถนัดซ้าย [การจับดินสอ จับตะเกียบ จับมีด จับไม้ปิงปอง นอกนั้นอาจมีการใช้มือขวาเนื่องจากอุปกรณฺ์บางอย่างที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ถูกออกแบบมาเพื่อคนถนัดขวา เช่น จับกรรไกร กดจอโทรศัพท์ ดีดกีตาร์]
- เป็นแฟนบอยสการ์เลต โจแฮนสัน ตามดูหนังเกือบทุกเรื่อง แม้จะเป็นหนังซีเรียสหรือหนังรักก็ทนดู
- ตอนนี้ก็ยังเนียนไว้ผมยาวอยู่ จนกว่าจะโดนขู่ตัดคะแนนหรือโทษหนักกว่านั้น
- จริงๆจะสอบเข้าม.สี่ใหม่ที่โรงเรียนเก่า แต่ด้วยความเซ็งที่โดนตัดโควต้า เลยตัดสินใจสอบที่อื่นซะเลย
- เนื่องจากวีเรียนจบม.3 และมีปัญหาเรื่องชกต่อย เพราะตนเองเป็นฝ่ายลงมือก่อนตอนมีเรื่อง จึงถูกตัดสินว่าเป็นฝ่ายผิด ประกอบกับทรงผมและตุ้มหูที่ผิดระเบียบให้อาจารย์ได้ต่อว่าเอาเสมอๆ ฝ่ายปกครองจึงตัดโควต้าต่อ ม.4 ของนาวี ทั้งๆที่้เกรดเฉลี่ยสามารถยื่นได้ จึงต้องมาสอบที่โรงเรียนลูกบาศก์
23. กรณีที่เป็นไบเซ็กชวล (ชอบทั้งสองเพศ)
- ปัจจุบันรู้ตัวหรือไม่
ไม่แน่ใจ : อย่างที่บอกไปว่าชอบผู้หญิงเพราะค่านิยมที่ถูกปลูกฝังแต่เด็ก แต่ในความรู้สึกส่วนตัวก็ไม่ได้รังเกียจผู้ชาย
- ถ้ารู้ตัวแล้ว เป็นอย่างเปิดเผยหรือไม่เปิดเผย
ถ้าคบกับเพศเดียวกันจริงๆ ก็คงจะเปิดเผย อาจะไม่พูดตรงๆ แต่ถ้าหากถูกถามหรือจำเป็นต้องบอก ก็จะยอมรับตรงๆ จากนิสัยพื้นฐานของนาวีที่เป็นคนไม่ซีเรียสอยู่แล้ว จึงไม่อายที่จะเปิดเผย แม้จะเป็นคนในครอบครัว
- ความรู้สึกของตัวเองที่มีรสนิยมทางเพศต่างจากที่สังคมทั่วไปยอมรับ
เข้าใจว่าเป็นเรื่องที่สังคมยังไม่ยอมรับ แต่ส่วนตัวนาวีรู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องน่ารังเกียจอะไร และมักจะค้านเต็มที่เมื่อมีคนเปิดประเด็นนี้ขึ้นมา
- การยอมรับทางครอบครัว และสังคมที่ผ่านมา (รวมถึงโรงเรียน)
เพราะที่ผ่านมา นาวียังไม่มีแฟนเป็นผู้ชาย ครอบครัวจึงยังไม่ทราบ แต่ถ้าหากทราบ ครอบครัวก็จะพยายามยอมรับ แม้จะรู้สึกแปลกๆบ้าง โดยคุณพ่อกับคุณแม่ของนาวีเป็นพ่อแม่ยุคใหม่ พร้อมที่จะเข้าใจลูกเสมอ
ในด้านสังคม และโรงเรียนนั้น เพื่อนๆรู้แค่ว่านาวีเป็นคนที่ยอมรับในเรื่องนี้ และไม่รังเกียจ แต่ไม่ทราบว่าเจ้าตัวเป็นจริงๆรึเปล่า
- กรณีที่มีประสบการณ์ความรักแบบดังกล่าว (ทั้งอดีตและปัจจุบัน)
เคยมีแฟนเป็นผู้หญิง ตอน ม.3 เป็นรุ่นพี่ ม.4 โดยอีกฝ่ายเป็นคนจีบก่อน ปัจจุบันเลิกกันไปด้วยดี กับเหตุผลที่ว่านาวียังไม่ใช่
และเคยมีความรู้สึก "ชอบ" เพื่อนที่เป็นเพศเดียวกัน อาจจะเป็นเพราะยังสับสน แต่ด้วยอุปนิสัยเพื่อนคนนั้นที่ตรงเสป็ก จึงชอบเพื่อนคนนั้น ไม่เคยสารภาพ และเก็บเงียบมาจนปัจจุบัน