ไก่ - พิชิต ใจหาญ
KAI - Pichit Jaihan | |
---|---|
[[|250px]] | |
ชื่อ-นามสกุล |
พิชิต ใจหาญ (Pichit Jaihan) |
ชื่อเล่น |
ไก่ (Kai) |
วันเกิด (อายุ นับถึงปี 2559) |
3 กันยายน พ.ศ.2539 (19 ปี) |
เพศ (รสนิยมทางเพศ) |
ชาย (ไบเซ็กชัวล์) |
สถานะ |
นักเรียนรุ่นที่ 5 (2555-2557) |
แผนการเรียน |
ศิลป์-คำนวณ |
ส่วนสูง-น้ำหนัก |
185 เซนติเมตร / n/a |
ศาสนา |
พุทธ |
กรุ๊ปเลือด |
n/a |
ชมรม |
ม.4 - โรงละครสร้างชีวิต ม.5 - ทำอาหาร |
ไก่ - พิชิต ใจหาญ
ข้อมูลทั่วไป
DB1
1.ชื่อจริง/นามสกุล
--– พิชิต ใจหาญ (ไก่)
--- Pichit Jaihan (Kai)
2.อายุ
-- 15 ปี
3. วัน/เดือน/ปี/เกิด -- 03/09/2539
4.เพศ -- ชาย รสนิยมทางเพศ -- ทั้งชายและหญิง
5.ความสูง -- 185
6.รูปพรรณสัณฐาน ตาสีฟ้าเขียว ผิวสีเข้ม แต่ไม่ดำ ผมทรงสกินเฮด สีน้ำตาลอ่อนๆ แต่งกายเรียบร้อยถูกฎระเบียบเสมอ
ขอบคุณภาพจากสหาย The.wolF
เครื่องแบบ
หารูปต้นฉบับไม่เจอแล้ว คงไม่สามารถให้เครดิตได้ขอโทษด้วยค่ะ
7.ลักษณะนิสัยและพฤติกรรมต่าง ๆ ของตัวละคร
นิสัย
Keyword :: สบายๆ ยิ้มเก่ง โกรธยาก คนดีแสนซื่อ นิยมไทย เห็นผี
สบายๆ
--สบาย ๆ......ไม่เรื่องมาก อยู่ง่ายกินง่าย เป็นเด็กดี เข้ากับคนอื่นง่าย สุภาพจนเกินไปหน่อย
ยิ้มเก่ง
--ยิ้มเก่ง....ยิ้มหวานตลอดเวลา ถ้ากลัวก็ยังยิ้มแต่เหงื่อจะเริ่มตก หน้าซีด
โกรธยาก
--โกรธยาก แต่หายเร็ว ยิ่งมีเหตุผลหรือข้อแก้ตัวที่ดีพอฟังขึ้น พิชิตก็จะหายเร็วเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หรือไม่ก็บางทีเอาของกินมาง้อ หรือบอกขอโทษหรือง้อ เจ้าตัวก็หายแล้ว ในกรณีแกล้งหยอกกันเล่นแรงไปหน่อย
--ถ้าโกรธขึ้นมาก็ยังยิ้มเป็นแบบแสยะยิ้ม แต่มีรังสีทะมึน คำพูดเริ่มลิเกไทยขึ้น
เช่น “ชิชะ อุเหม่~ ดูดู๋ เจ้าทำข้าพิโรธเสียแล้วรู้ฤาไม่? จงตอบมาบัดเดี๋ยวนี้”
ในส่วนของเรื่องโกรธ ขอเพิ่มเติมละกันค่ะ พิชิตจะโกรธก็ต่อเมื่อ
• โดนดูถูกสบประมาท
• ล้อบุคคลที่เขาเคารพเช่น ครอบครัวเขา
• เมื่อพบคนเกเร หรือคนเห็นแก่ตัวขั้นหนัก
ส่วน
ระดับความโกรธจะรู้ได้จากภาษา+ท่าทางลิเกค่ะ พิชิตจะรัวภาษาลิเกใส่ไม่ยั้ง
โวยวายเสียงดัง มีท่าทางตบเข่า ชี้นิ้วต่างๆ คนฟังจะรับรู้ได้ถึงความโกรธ
บางทีอาจรัวจนอีกฝ่ายเถียงไม่ทัน จนกว่าพิชิตจะเหนื่อยหอบไปเอง ถึงจะหยุด
….
แต่
ทั้งนี้ทั้งนั้นพิชิตเป็นคนมีเหตุผลค่ะ
บางทีเขาอาจจะนึกว่าเรื่องที่เพื่อนล้อเล่นเป็นเรื่องจริง จนเผลอโกรธ
แต่ถ้าอธิบายเขาด้วยเหตุผลที่ดีพอ เขาก็จะรับฟัง
แล้วหายโกรธเป็นปลิดทิ้งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นค่ะ
ถ้าโกรธเล่นๆ พิชิตพูดจะศัพท์ลิเกเช่นเดียวกัน
แต่จะไม่มีบรรยากาศกดดันหรือรังสีทะมึนหรือท่าทางเหมือนยามโกรธจริง
เหมือนบ่นพึมพำเสียมากกว่า ไม่ได้โวยวายเสียงดัง
ถ้า
เกิดมีเรื่องกันกับผู้หญิงก็จะยอมผู้หญิงไว้ก่อน จะไม่ด่าเด็ดขาด!
แต่จะเปลี่ยนอาการเป็นเงียบบอกให้รู้นิดหน่อยว่าโกรธแล้วเดินหลบหน้าไป
ไม่คุยด้วยจนกว่าจะหายโกรธและไม่รัวต่อว่าเหมือนเพื่อนผู้ชาย
แต่ศัพท์นั้นยังคงเป็นลิเกอยู่เช่นเดิม...
คนดีแสนซื่อ
เป็นคนเปิดเผยจริงใจ หาก โดนประชด หรือแกล้งหลอกอะไรต่างๆ ก็จะซื่อเชื่อใครเสียง่ายๆ แต่ไม่ใช่บื้อไม่รู้เรื่องอะไรเลย ในบางสถานการณ์ความซื่อนั่นก็สามารถทำให้พิชิตเอาตัวรอดไปได้อย่างไม่ ตั้งใจ
• เมื่อพิชิตเมื่อโดนประชดจะ ตามไม่ทัน
สถานการณ์ : เพื่อนประชดในห้อง
“เอ็งหล่อตายล่ะ”
“ขอบคุณครับที่ชม ความจริงผมไม่คิดว่าผมหล่อหรอกครับ แต่ขอบคุณมากนะครับ” ยิ้มคนดีให้อย่างจริงใจ
“...ตูประชด”
“ทำไมต้องหลอกให้ดีใจด้วย ผมเสียใจนะครับ” มองด้วยสายตาอันเศร้าสร้อย เต็มไปด้วยความผิดหวัง
“...”
• เมื่อความซื่อทำให้พิชิตเอาตัวรอดได้
สถานการณ์
มีเพื่อนแกล้ง มีแก้ววางตรงหน้า 2 แก้ว แก้วนึงเป็นแก้วปกติ แก้วนึงมียาถ่ายผสม แต่พิชิตไม่รู้ว่าแก้วไหนมียาถ่าย เพื่อนแกล้งเอาแก้วดีให้ หวังให้พิชิตหยิบแก้วอีกใบ เพราะไม่ไว้ใจเพื่อน แต่ด้วยความซื่อของพิชิต พิชิตจะดื่มแก้วตัวเองเลย ทำให้รอดไม่โดนยาถ่าย
เรียก
ได้ว่าความซื่อของพิชิตมีโชคมาช่วยด้วย
ทำให้รอดจากสถานการณ์จวนตัวหรือโดนแกล้งไปได้บ่อยครั้ง
ด้วยความที่เป็นเด็กดี+ซื่อ ทำให้ภาพลักษณ์พิชิตในสายตาครูดูดี
เวลาเกิดเรื่องกันในห้อง พิชิตจะเป็นคนแรกที่พ้นข้อต้องหาอย่างรวดเร็ว
พิชิต
ไม่เคยระแวงสงสัยในตัวใคร มองคนอื่นในแง่ดีเสมอ
จึงเป็นระดับความซื่อทีค่อนข้างจะแปลกๆ อยู่หน่อย
หรือเรียกได้ว่าอ่อนต่อโลกก็คงได้ตามสไตล์เด็กบ้านนอกเข้ากรุง
อย่าง
ไรก็ตามหากมีคนจับจุดนี้ได้ พิชิตก็จะโดนหลอกง่ายมากๆ เชื่อจริงจัง
แม้จะโดนคนนั้นหลอกซ้ำอีกกี่ครั้ง เจ้าตัวก็ยังเชื่อใจอยู่เช่นเดิม
เรียกได้ว่าไม่รู้จักจำ...
ไทยนิยม
--อนุรักษ์ไทยนิยม.....รักภาษาไทย วัฒนธรรมไทย ตำนานไทย เด็กไทย สาวไทย ชายไทย กระเทยไทย? ...เพราะเป็นเอกลักษณ์ของชาติ! และเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจ
ที่ ไทยนิยมขั้นจัด เพราะว่าคุณแม่เป็นสาเหตุ คุณแม่รักเมืองไทยมาก คุณพ่อเมื่อพบรักกับคุณแม่ก็ซึมซับวัฒนธรรมไทยเข้าไปเต็มที่ สภาพแวดล้อมก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้พิชิตรักความเป็นไทย
เห็นผี
--มี ญาณเห็นผี จนบางทีแยกไม่ออกว่าคนหรือผี ก็ยังคงคุยทักไปทั่วเหมือนเดิม...บื้อจนไม่รู้ว่าไม่ใช่คน ชอบทำชาวบ้านขนหัวลุกไปตามๆ กัน ถ้ารู้ว่าเป็นผีเมื่อไร ก็ไม่ได้กลัว กลับกันตาจะเป็นประกายวิบวับ รีบวิ่งเข้าใส่จะคุยกับผีอยู่บ่อยๆ จนต้องมีคนลากพาวิ่งหนี...
การพูดจา
--เวลาพูดจาจะมีหางเสียงตลอด บางทีก็พูดสองแง่สองง่าม กำกวมชวนเข้าใจผิด แอบเสี่ยวโดยไม่ตั้งใจ.. ตัวอย่างประโยคกำกวมแอบเสี่ยว.....
พิชิต "น่ารักจังครับ คนรึเทวดากันเนี่ย ดวงตานี่กลมเชียว ขนตารึก็ย๊าวยาว มีแฟนหรือยังครับ"
พิชิตอาจจพูดประโยคนี้กับผู้ชาย ถ้าเค้าเห็นว่าน่ารักจริงๆ ไม่ได้มีเจตนาจะจีบอะไร แค่อยากชมว่าน่ารักกับอยากรู้เล็กน้อยเท่านั้นแหละ แต่อาจทำให้คนอื่นเข้าใจผิดไปว่า กำลังไปจีบเค้าได้เช่นกัน
--เพิ่มเติม* พิชิตมีคำพูดติดปากซึ่งอาจจะได้ยินบ่อยๆ คือ..."คุณแม่บอกว่า..."
ตัวอย่างประโยคสนทนา
“ไปเตะบอลกันไหม?”
ระดับที่พูดกับเพื่อน....”ผมอยากเตะฟุตบอล ไปเตะกันไหมวะครับคุณเพื่อน”
คำแทนตัว...ผม คำแทนตัวเพื่อน...คุณ(ชื่อ) ลงท้าย...(วะครับ)
ระดับที่พูดกับคุณครู...”กราบเรียนคุณครูที่เคารพครับ ผมพิชิตขออนุญาตไปเตะบอลครับ” (จะเป็นทางการเต็มที่)
ระดับที่พูดกับบิดามารดาญาติ....”พ่อจ๋า แม่จ๋า หนูไปเตะบอลนะครับ”
คำแทนตัว...หนู ลงท้าย....จ๊ะ จ๋า
คุยกับเพื่อนผู้หญิง...“ผมไปเตะฟุตบอลก่อนนะครับ คุณ...(ชื่อ)”
คำแทนตัว....ผม คำแทนตัวเพื่อนผู้หญิง...คุณ(ชื่อ) ลงท้าย... ครับ
--ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนสนิทไม่สนิท พิชิตก็จะพูดสุภาพเสมอค่ะ
ส่วนการปฏิบัติกับเพื่อนผู้หญิง พิชิตจะเป็นสุภาพบุรุษค่ะ จะไม่เข้าถึงเนื้อถึงตัวเด็ดขาด
คุยกับนักเรียนรุ่นน้อง...“พี่ไก่ไปเตะฟุตบอลก่อนนะครับ น้อง...(ชื่อ)”
คำแทนตัว...พี่ไก่ คำแทนตัวรุ่นน้อง...น้อง(ชื่อ) ลงท้าย...ครับ
รุ่นพี่...“พี่...(ชื่อ)ครับ น้องไก่ขอไปเตะฟุตบอลนะครับ”
คำแทนตัว...น้องไก่ คำแทนตัวรุ่นพี่...พี่(ชื่อ) ลงท้าย…ครับ
คุยกับผู้ใหญ่ทั่วไป เช่นแม่ค้า พ่อค้า ฯลฯ...“คุณพี่...(ชื่อ)ครับ น้องไปเตะบอลนะครับ”
คำแทนตัว...น้อง คำแทนตัวผู้ใหญ่...คุณพี่(ชื่อ) /พี่สาว/พี่ชาย ลงท้าย...ครับ
--ถ้าเป็นพวกป้า ลุง ก็เรียกพี่สาวกับพี่ชายอยู่ดีค่ะ
คำอุทาน
"โอ้แม่เจ้า" / "แม่เจ้าประคุณรุนช่อง" / "พุทโถ พุทถัง" / "โอ้ คุณพระ" / "อนิจจา" / "ตาเถรตกใต้ถุน" ฯลฯ
ถ้าสนิทกัน พิชิตจะเรียกชื่อเล่นของอีกฝ่าย แต่ก็ยังมีคำว่าคุณนำหน้าอยู่ดี เช่น "คุณอ๋อยครับ"
ถ้าไม่ค่อยสนิทกัน ก็จะเรียกชื่อจริงแทน เช่น "คุณสมชายครับ"
8.สิ่งที่ชอบ
-- ทุกสิ่งที่เป็นไทย...โดยเฉพาะเรื่องความเชื่อต่างๆ เรื่องเร้นลับ เช่นผีสางนางไม้ โชคลาภ
ถ้าเกี่ยวข้องกับเรื่องพวกนี้เมื่อไร ตาจะเป็นประกายวิบวับ แสยะยิ้มแบบแปลกๆ เริ่มพูดมากไม่ดูบรรยากาศรอบข้างหรือสถานการณ์ใดๆ
--ชอบพวกภาษาถิ่นแต่ละภาคมาก จนถึงขั้นคลั่งไคล้ แต่ว่าพูดไม่ได้ มีความใฝ่ฝันว่าสักวันจะพูดให้ได้...
--ชอบดูลิเกมาก ตอนเด็กชอบไปดู เล่นเลียนแบบอยู่บ่อยๆ จนมีช่วงหนึ่งพูดกับพ่อแม่เป็นภาษาลิเก แก้กันอยู่นาน โตขึ้นมาเกือบหายแล้ว แต่ยังไม่หายดี จะหลุดภาษาลิเกออกมาเมื่อโกรธ
--ชอบ พูดคุยเรื่องอาหาร วิธีการทำ นั่งวิเคราะห์ส่วนประกอบ รสชาติต่างๆ บางทีถ้ากินร้านอาหารไหนถูกปากจะเดินไปตีซี้กับแม่ค้า ขอสูตรมาฝึกทำ นอกจากนี้ยังชอบเอาอาหารที่ตัวเองทำมาให้คนอื่นกิน จะมีความสุขมากถ้าคนกินขอเพิ่มอีกหรือบอกว่าอร่อย~
--นอก จากนี้ยังชอบเพลงลูกทุ่ง ตอนอยู่ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อยามว่างนั่งทำงานอดิเรกไป ก็มักจะเปิดฟังวิทยุควบคู่ไปพร้อมฮัมเพลงหรือร้องตามไป ซึ่งสัญญาณวิทยุก็รับได้แต่เพลงลูกทุ่ง จึงไม่มีเพลงอื่นฟังนอกเหนือไปจากเพลงประเภทนี้...
ด้วยความชอบนี้ทำให้บางครั้งจะได้ยินพิชิตร้องเพลงลูกทุ่งเดินไปที่ต่าง ๆ ยามอารมณ์ดี หรือร้องเพลงลูกทุ่งประกอบกับอากัปกริยาต่างๆ เช่น เมื่อพิชิตคันหู......เจ้าตัวก็อาจจะร้องเพลงจ๊ะคันหูออกมา แทนที่จะบอกธรรมดาว่าคันหู....เป็นต้น
9.สิ่งที่เกลียด,กลัว..
--กลัวชาว ต่างชาติ เพราะพูดภาษาอังกฤษได้กระท่อนกระแท่น หน้าตาดูฝรั่ง เลยชอบมีฝรั่งมาถามทางอยู่บ่อยๆ มีความรู้สึกเหมือนโดนเอ เลี่ยนต่างดาวพูดภาษาดาวแม่ใส่ เลยกลัวฝังใจ (ยกเว้นพ่อตัวเอง เพราะพ่อพูดไทยด้วยตลอด)
เวลาเจอจะยิ้มเจื่อนๆ ด้วยหน้าซีดๆก่อนจะตอบไปว่า....
"ไอ้-แค่น-น้อต-สะ-ปิค-อิง-ลิช" เป็นคาถาประจำตัว ยกมือไหว้หนึ่งที ก่อนรีบวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว
--เกลียดเทคโนโลยีทุกชนิด จับอะไรเป็นต้องเจ๊งหมด
ยกเว้นโทรศัพท์มือถือรุ่น Nokia 3310 แต่ใช้เป็นแค่รับโทรศัพท์ (ก็มันกดปุ่มเดียวนี่หว่า)
คุณแม่สั่งให้พกไว้ติดต่อกัน
10.งานอดิเรก....ร้อยพวงมาลัย ทำอาหาร สานตะกร้า ทอผ้า
• ทำอาหารพวกเครื่องแกงต่างๆ เช่น แกงส้ม แกงเขียวหวาน หรือน้ำยาป่า น้ำพริกปลาทู น้ำพริกใดๆ
• พวกทอผ้าก็แบบผ้าไหม ผ้าลายต่างๆ เช่น ลายม้า ลายนาค สนใจก็ดูได้จากเว็บนี้ค่ะ
http://www.sacict.net/kubua/dot_chok.htm
• ส่วนพวกสานๆ ก็สานหวายตะกร้าธรรมดาค่ะ
11.สายการเรียน...ศิลป์-คำนวณ
12.วิชาที่ชอบ...
-ภาษาไทย เพราะคุณแม่สอนไว้เกิดเป็นคนไทยต้องรักภาษาไทย
-คหกรรม เพราะคุณแม่บอกให้ฝึกไว้ เวลาออกเรือน ภรรยาจะได้สบาย~ วิชาที่เกลียด...
-ภาษาอังกฤษ เพราะความสามารถทางภาษาอังกฤษไม่กระดิก เรียนไปไม่เคยเข้าหัว
-คอมพิวเตอร์ จับคอมพิวเตอร์เป็นต้องเสีย โดนคุณแม่บ่นอยู่บ่อยๆ เรื่องต้องจ่ายเงินชดเชยอุปกรณ์โรงเรียน
13.วิชาที่ถนัด....
ความถนัดของพิชิตมาจากสาเหตุความชอบเป็นหลัก ทำให้ฝึกฝนบ่อยจนเกิดความชำนาญ เหตุผลมาจากข้อ ๑๒ ค่ะ
• ภาษาไทย
• คหกรรม
• การงานอาชีพ
วิชาที่ไม่ถนัด...
ด้านที่ไม่ถนัดมาจากความไม่ชอบดังข้อ ๑๒ พิชิตไม่ชอบ ทำให้พยายามหลีกเลี่ยงการใช้ทักษะ ฝึกฝนวิชาเหล่านี้ ทำให้กลายเป็นจุดด้อยเป็นวิชาที่ไม่ถนัดไปค่ะ
• ภาษาอังกฤษ
• คอมพิวเตอร์
14. คะแนนวิชาต่างๆในตอน ม.3
คณิตศาสตร์ 4 ฟิสิกส์ 3 เคมี 3 ชีววิทยา 3 ภาษาอังกฤษ 2.5 ภาษาไทย 4 สังคมศึกษา 4 การงานอาชีพและเทคโนโลยี 2.5 (ติดวิชาคอมพิวเตอร์) สุขศึกษา 4 พลศึกษา 4 ดนตรี 4 ศิลปะ 4 (โรงเรียนปล่อยเกรด)
15.ความสามารถพิเศษในการเรียน...
--ขับเสภา วรรณคดีไทยต่างๆ
--ร้องเพลงพื้นบ้านเช่น เพลงพวงมาลัย เพลงลำตัด
--ศิลปะ
นั้นพิชิตวาดรูปวิวรูปรูปสัตว์หรืออะไรก็ได้ ที่ไม่ใช่มนุษย์ได้
ถ้าวาดคนจะกลายเป็นภาพ Abstract แต่เจ้าตัวคิดว่าตัวเองวาดภาพคนได้สวยมาก
เหมือนจริงสุดๆ ทั้งที่ความเป็นจริงไม่ใช่...ไม่มีความเหมือนแม้แต่น้อย...
ทั้งนี้ทั้งนั้นพิชิตก็ยังคงภาคภูมิใจกับผลงานตัวเองมาก...
16.ลักษณะคนที่จะเป็นเพื่อนได้
--เข้าใจ ทนความไร้เทคโนโลยีของเขาได้ ไม่ดูถูกเขาว่าเป็นเด็กบ้านนอกคอกนา
17.ลักษณะคนที่ไม่ถูกชะตา
--พวกเห็นแก่ตัว ไม่ใส่ใจความรู้สึกคนอื่น
--พวกมนุษย์ต่างดาว ใช้ภาษาไทยวิบัติเข้าขั้นวิกฤต ขนาดฟังไม่ออก แต่ถ้าเล็กน้อยยังพอรับได้
อย่างที่รับไม่ได้ เช่น หวาดเดคร๊ะ ตะเองเคดเถะกางแมะ (แปล สวัสดีค่ะ ตัวเองคิดถึงกันไหม)
18.สเป็กในดวงใจ...
• คนเก่งเทคโนโลยี • ทันคน • ขี้เล่น ตลกๆ • เข้ากับคนอื่นได้ดี • เก่งภาษาอังกฤษ! • เป็นคนมั่นใจในตัวเอง
19.สัญชาติ- - ไทย เชื้อชาติ - - นอร์เวย์ (ตามพ่อ แต่เกิดและโตในไทย)
ภาษาที่พูด - - ไทย ภาคกลาง ศาสนา - - พุทธ นั่งสมาธิสวดมนต์ เป็นประจำ
**เพิ่มเติม ทางนอร์เวย์มีกฎหมายห้ามบุคคลถือสองสัญชาติ ทำให้พิชิตมีสัญชาติเพียงชาติเดียวคือไทย
** สาเหตุที่ภาษาอังกฤษ+ภาษานอร์เวย์ไม่ค่อยดี
พิชิต หัวทื่อๆ เรียนภาษาอังกฤษก็งงๆ อยู่แล้ว ภาษานอร์เวย์ก็ยาก ยิ่งถ้าเรียนสองอย่างพร้อมกัน เขาจะเอาภาษามาตีกันตาย คุณพ่อของพิชิตเห็นว่าภาษาอังกฤษใช้ได้หลากหลายกว่า เลยสอนภาษาอังกฤษให้เพียงภาษาเดียว อย่างไรก็ตามด้วยสภาพแวดล้อมที่เติบโตมาในไทย ทำให้ภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ใช้เท่าที่ควร
ในส่วนทักษะภาษาอังกฤษ
• การเขียน....
ถ้าเป็นไวยากรณ์ขั้นพื้นฐานจะไม่มีปัญหาอะไรเช่น Present Tense แต่ถ้าเริ่มมีเวลาใน Past Tense หรือ Tense อื่นๆ มาเกี่ยวข้องจะเริ่มมั่ว พูดง่ายๆก็คือ ความสามารถในการเขียนเทียบเท่าเด็กประถม คือได้เพียงประโยคพวกไม่ซับซ้อน
• การฟัง....
ฟังไม่รู้เรื่องขั้นหนัก ยกเว้นพวกประโยคง่ายๆ เบสิคเช่น
-Yes I do. -No I can't.
-She is a doctor. -It is a dog.
• การพูด....
เป็นทักษะด้านที่แย่ที่สุด พูดแทบไม่ได้เลย เพราะตื่นตกใจจึงคิดสดไม่เป็น เลยพูดกระท่อนกระแท่นเป็นคำๆ จนแทบจะไม่เป็นประโยค คนอื่นฟังแทบไม่รู้เรื่อง พิชิตเองก็นึกตามในหัวไม่ทันว่าต้องพูดอะไร ส่วนใหญ่เลยอาศัยโพยเข้าช่วยอีกที หากจำเป็นต้องพูด แต่ถึงจะมีโพยไม่มีโพยก็แทบไม่ต่างกัน แค่พูดได้ยาวขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น...
• การอ่าน...
พิชิตอ่านได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะอ่านถูก ถ้าเจอคำใหม่ๆ เจ้าตัวจะมั่วทันใด แต่สำเนียงไทยสุดๆ เช่น
ในอดีตครูให้อ่านคำว่า You are pretty. ถ้าพิชิตอ่าน pretty ไม่ได้ พิชิตจะมั่วอ่านไปว่า ยู - อา-ผิดตี
20.อื่น ๆ
-พิชิตเกิดและโตในไทย
-แม่เป็นคนไทย แต่พ่อเป็นนอร์เวย์ พบรักกันที่กระท่อมปลายทุ่งนาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
--ใช้นามสกุลคุณแม่ โดยทั้งบิดาและมารดายินยอม >>อ้างอิงจาก จิ้ม
-ปัจจุบันพ่อทำงานอยู่ต่างประเทศ นานๆ ทีกลับมาไทย โทรมาคุยกันบ้างบางครั้ง แม่เป็นผู้ใหญ่บ้าน
-พิชิตอยู่ตามชนบทและเรียนที่นั่นมาตั้งแต่เล็กจึงไม่คุ้นชินกับเทคโนโลยีทุกชนิด
-ภายหลังย้ายมาเรียนเมืองกรุง จึงมาอาศัยอยู่กับคุณยายแทน
-เป็นลูกคนเดียว
-ครอบครัวมีฐานะ แต่ทำตัวติดดิน ...ไม่รู้ตัวว่าตัวเองรวย
-ความใฝ่ฝันในอนาคต...อยากเป็นครูสอนภาษาไทย